ศิลปินหญิงกับเพลงดี ๆ ที่ถูกมองข้ามแห่งปี 2022

ในปี 2022 นี้ก็เป็นปีที่มีเพลงไวรัลจากศิลปินหญิงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Nicki Minaj กับเพลง Super Freaky Girl หรือ Taylor Swift กับอัลบั้ม Midnights หรือจะเป็นเพลงดังใน Tik Tok อย่าง Made You Look ของ Meghan Trainor กับ abcdefu ของ Gayle ก็ดังสุด ๆ เหมือนกัน
แต่ก็จะมีเพลงของศิลปินหญิงหลาย ๆ คนเลยที่ถูกลืม ถูกมองข้ามไป และเป็นเพลงที่เราชอบมาก ๆ ก็เลยอยากจะมาแนะนำให้ได้ฟังกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นศิลปินที่เคยมีเพลงดัง ๆ นะ ไม่ใช่ศิลปินหน้าใหม่สักเท่าไหร่
เริ่มคนแรกเลย Rina Sawayama กับอัลบั้ม Hold The Girl

ศิลปินลูกครึ่งญี่ปุ่น-อังกฤษกับอัลบั้มที่สองแล้วในชื่อ Hold The Girl จริง ๆ เรารู้จักนางตั้งแต่อัลบั้มแรกจากเพลง Tokyo Love Hotel และก็ Cherry ที่เป็นเพลงที่ไม่ได้อยู่ในอัลบั้ม เพราะเป็นแนวซินธ์ป๊อปแบบที่เราชอบแหละ แต่พอมาฟังอัลบั้มก็จะมีเพลง XS, Comme des Garçons, Who’s Gonna Save U Now? ที่เราชอบในอัลบั้มแรกนะ
ส่วนอัลบั้ม Hold The Girl ที่ปล่อยมาในปีนี้นั้นมีเพลงที่เราชอบเยอะเลย ที่แนะนำให้ฟังก็มี
- This Hell ที่พูดถึงการที่เมื่อเป็นเกย์ก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นคนบาป ยังไงก็ต้องตกนรก เธอก็เลยชวนทุกคนมาลงนรกด้วยกันซะเลย
- Hold The Girl และ Phantom ที่จะเป็นการเล่าถึงตัวเองในอดีตที่สูญหายไป และก็อยากให้ทุกคนรักตัวเองให้มาก ๆ
- แล้วก็มีซิงเกิ้ล Frankenstein ที่ออกไปทางร็อคและมันส์มาก
- นอกจากนี้ก็มี Hurricane, Catch Me In The Air ที่แนะนำด้วย
คนที่สอง Carly Rae Jepsen กับอัลบั้ม The Loneliest Time

ความซวยคือนางประกาศวันปล่อยอัลบั้มมานานแล้ว และอัลบั้ม Midnights ของเทย์ก็มาปล่อยชนกันพอดี สงสารรรร
เป็นวันฮิตวันเดอร์ที่เรารู้สึกเสียดายมาก ๆ ที่นอกจาก Call Me Maybe แล้วเพลงของนางก็ไม่ได้ปังสักเท่าไหร่ ทั้ง ๆ อัลบั้มของนางดีมาก ๆ มาตลอด EMOTION นี่คืออัลบั้มขึ้นหิ้งจริง ๆ แต่กลับไม่ปัง จนมาถึงอัลบั้มนี้ The Loneliest Time ที่ยังมีความเป็นบับเบิ้ลกัมป๊อป ป๊อปใส ๆ เหมือนเดิม แต่ก็จะมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นจาก Dedicated นะ
ที่อยากแนะนำให้ฟังก็จะมี
- Beach House เป็นซิงเกิ้ลที่มีความกวน ๆ หน่อย เล่าเรื่องการไปเดทกับผู้ชายมากหน้าหลายตา แต่ก็ผิดหวังมาหมด
- Joshua Tree ที่เล่าถึงการหนีไปพักใจ
- Talking To Yourself เหมาะเลยสำหรับคนที่เลิกกันแบบไม่ดีเท่าไหร่ และอีกฝ่ายเป็นคนทำตัวไม่ดีใส่เรา เราเลยเลือกที่จะเดินจากมา
- Sideways เพลงรักหวาน ๆ ที่เล่าถึงการได้เจอกับคนคนนึงที่ทำให้เรารู้สึกพอใจมาก ๆ จนรู้สึกว่าทุกอย่างมันเข้าทางไปหมด แม้ว่าจะมีอะไรไม่เข้าที่เข้าทางบ้าง แต่เธอก็ได้รับความมั่นใจจากคนที่อยู่กับคนคนนี้
- The Loneliest Time เพลงนี้เล่าถึงช่วงเวลาที่เราเหงามาก ๆ หลังจากเลิกรากับคนรักไป แต่ด้วยความเหงานั้นเอง ที่ทำให้ทั้งเราและเค้าอยากกลับมาคบกันอีกครั้งนึง และก็น่าจะลงเอยด้วยดี
ต่อมาก็คือ Tove Lo (อ่านว่า ทูเว ลู) กับอัลบั้ม Dirt Femme

Tove Lo นี่ดังมาก ๆ เลยจากเพลง Habits หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยมีกระแสในไทยสักเท่าไหร่ แต่ก็มีอัลบั้มที่เราชอบของนางมาเรื่อย ๆ นะ Lady Wood กับ Blue Lips เราก็ชอบ แล้วเราก็ข้ามมาฟัง Dirt Femme เลย
ซึ่งสไตล์เพลงของนางก็ยังเป็นอิเลคโทรนิคเหมือนเดิม แต่ก็มีเพลงที่สนุก ๆ เยอะเลย
เพลงที่แนะนำก็จะมี
- 2 Die 4 ที่ใช้แซมเปิ้ลจากเพลง Popcorn จาก Hot Butter ซึ่งเป็นเพลงดังในตำนานเลยก็ว่าได้ จึงทำให้เมโลดี้เพลงนี้ค่อนข้างจะติดหู ส่วนเนื้อหานั้นก็คลั่งรักแหละ ยอมตายเพื่อผู้ชายได้เลย เพราะผู้ชายงานดีจริง
- Pineapple Slice ฟังสนุกมาก ๆ เลยแหละเพลงนี้
- No One Dies from Love เพลงเปิดอัลบั้มที่เป็นเพลงไม่เร็วมากนัก ฟังง่ายเหมือนกัน
Ellie Goulding กับอัลบั้ม Higher Than Heaven ที่ยังไม่ได้ปล่อย แต่ปล่อยเพลงมาหลายเพลงแล้ว

Ellie Goulding ก็เป็นศิลปินที่ดังมาก ๆ จากเพลง Love Me Like You Do แต่ส่วนตัวที่เราชอบเพลงของนางจริง ๆ คือ Lights, Burn, On My Mind เทือก ๆ นี้ซะมากกว่า ด้วยความที่เป็นอิเลคโทรนิค กับดนตรีที่แปลก ๆ หน่อย ไม่ได้ป๊อปมากนัก พร้อมด้วยเสียงหวาน ๆ ของนาง มันเข้ากันดีจริง ๆ แหละ
ส่วนปีนี้นางออกเพลงใหม่มา 3 เพลงแล้ว ซึ่งเราชอบหมดเลย
- Easy Lover ก็เป็นเพลงอิเลคโทรนิคสนุก ๆ ที่เล่าถึงความสัมพันธ์ที่พอเราจะจากเขาไป เขาก็รั้งเราเอาไว้ และครั้งนี้ก็อยากให้เขาใจดีกับเรามาก ๆ ขึ้นหน่อยนะ
- All By Myself เป็น EDM ที่ฟังง่าย ๆ เพลิน ๆ ดี
- Let It Die เพลงนี้บีทหนัก ๆ หน่อย แต่เมโลดี้เพราะมากเช่นกัน
Demi Lovato กับอัลบั้ม Holy Fvck

Demi Lovato ปีนี้จริง ๆ แล้วก็มีเพลง Cool For The Summer ที่กลับมาดังใน Tik Tok นะ แต่จริง ๆ แล้วปีนี้นางก็ปล่อยอัลบั้มใหม่ด้วย ซึ่งเป็นแนวพังค์ร็อคหน่อย ไม่ได้เป็นป๊อปหรืออิเลคโทรนิคแบบที่เคยทำมา ซึ่งนางก็ทำได้ดีเลย
เพลงที่แนะนำก็มี
- 29 เป็นเพลงที่เล่าถึงตอนที่นางอายุ 17 แล้วคบกับผู้ชายอายุ 29 นางเล่าว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ทำให้นางเจ็บปวดมาถึงทุกวันนี้ ด้วยช่วงวัยนั้นเธอก็ยังไม่เข้าใจเรื่องของการยินยอม และมันทำให้เธอมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับผู้ชายมาตลอดจนถึงตอนนี้ และเธอบอกว่าเธอแต่งเพลงนี้เพื่อให้ได้ระบายออกมา และเป็นการเยียวยาตัวเธอเองด้วย
- Freak เพลงนี้ร่วมงานกับ YUNGBLUD ศิลปินพังค์ร็อคที่กำลังมาแรงในยุคนี้เลย และก็เป็นเพลงที่สายพังค์ร็อคน่าจะต้องชอบ
- Happy Ending มาที่เพลงช้ากันบ้าง เพลงนี้ก็เป็นเพลงพังค์ร็อคแบบช้า ๆ ที่เล่าถึงการพยายามจะหาฉากจบแบบที่มีความสุขบ้าง หลังจากพยายามตามหาความสุขมานานและก็หวังว่าจะได้เจอนะ
ขอแถมอีกคน Avril Lavigne กับอัลบั้ม Love Sux

ศิลปินในตำนานอย่าง Avril Lavigne ปีนี้ก็มีอัลบั้มใหม่นะ แต่เราไม่ค่อยเห็นมีกระแสสักเท่าไหร่เลย โดยที่อัลบั้มนี้ก็กลับมาเป็นพังค์ร็อคและป๊อปเต็มรูปแบบคล้าย ๆ อัลบั้มยุค The Best Damn Thing
เพลงที่แนะนำก็จะมี
- Bite Me ซิงเกิ้ลเปิดอัลบั้มที่ย้อนกลับไปเป็นความป๊อป พังค์ ร็อคอีกครั้งนึง เล่าถึงการให้โอกาสคนคนนึงไปแล้ว เพราะงั้นจะไม่มีอีกเป็นครั้งที่สองแน่นอน
- Love It When You Hate Me เพลงที่ร่วมงานกับ blackbear และเสียงของทั้งคู่กับเข้ากันดีเลย เพลงนี้เล่าถึงการที่เราชอบคนที่เย็นชาใส่เรา มันทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นได้
- Bois Lie ร่วมงานกับ Machine Gun Kelly เป็นเพลงที่ตอนแรกเหมือนจะด่าผู้ชาย ว่าพวกผู้ชายน่ะชอบโกหก แต่ปิดท้ายด้วยการที่บอกว่าผู้หญิงก็โกหกเหมือนกัน
- I’m A Mess ร่วมงานกับ YUNGBLUD เพลงนี้จะอยู่ในอัลบั้มเวอร์ชั่น Deluxe เป็นเพลงที่เล่าถึงเวลาที่ไม่ได้อยู่กับคนที่เรารักแล้วรู้สึกว่าอับจนหนทาง และหวังว่าจะได้กลับไปเจอกันอีกครั้ง แม้ตัวเราจะเป็นคนที่มีปัญหามากมายก็ตาม
นี่ก็เป็นเพลงจากศิลปินหญิงในปี 2022 ที่เราชอบมาก ๆ เลยก็เลยอยากให้ทุกคนที่ไม่เคยฟังได้ลองฟังกันดู เผื่อจะมีเพลงไหนถูกใจบ้างนะ
ถ้าลองฟังแล้วชอบก็ลองมาคอมเมนต์บอกได้เลยว่าชอบเพลงไหนบ้าง 🙂