Taylor Swift – All Too Well (10 minute version)

รวมเพลงแปลจาก Red, Taylor Swift

แปล All Too Well เวอร์ชั่น 10 นาทีเต็ม เพิ่มเนื้อหาจากเวอร์ชั่นเก่ามาเยอะมาก ทำให้เห็นว่าเธอเจ็บปวดขนาดไหนจากการที่คบกับ Jake Gyllenhaal ในตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เจคคิดไปเองเกี่ยวกับเธอ อยากให้เธอเป็นแบบไหน และทิ้งเธอไว้ แต่เธอเองก็รู้สึกผิดกับความสัมพันธ์นี้เหมือนกันนะ ที่เห็นเจคก็เศร้าไม่แพ้เธอ

เราแปลบทพูดในเอ็มวีไว้ด้วยนะ เลื่อนไปดูตอนท้ายได้เลย

 

I walked through the door with you, the air was cold
But something about it felt like home somehow
And I left my scarf there at your sister’s house
And you still got it in your drawer, even now
Oh, your sweet disposition and my wide-eyed gaze
We’re singing in the car getting lost upstate
Autumn leaves falling down like pieces into place
And I can picture it after all these days

ฉันเดินผ่านประตูบานนั้นไปกับเธอ อากาศมันเย็นๆ
แต่บางอย่างที่นั่นมันทำให้ฉันรู้สึกถึงบ้าน
ฉันทิ้งผ้าพันคอไว้ที่บ้านของน้องสาวเธอ
และเธอก็ยังคงเก็บมันไว้ในลิ้นชัก จนถึงตอนนี้
นิสัยน่ารักๆของเธอ และสายตาที่ขี้สงสัยของฉัน
เราร้องเพลงกันในรถและหลงทางไปในรัฐทางเหนือ
ใบไม้ยามฤดูใบไม้ร่วงนั้นร่วงโรยเหมือนจิ๊กซอว์ที่เติมเต็มภาพ
และฉันยังคงจำภาพนั้นได้ดี แม้กระทั่งถึงเวลานี้

And I know it’s long gone
And that magic’s not here no more
And I might be okay
But I’m not fine at all

และฉันรู้ว่ามันผ่านมานานแสนนานแล้ว
และเวทมนตร์นั้นมันไม่มีอยู่ตรงนี้อีกต่อไป
ฉันอาจจะดูเหมือนปกติดี
แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย

‘Cause there we are again, on that little town street
You almost ran the red ’cause you were looking over me
Wind in my hair, I was there, I remember it all too well

เพราะเรากลับมาอยู่ที่ตรงนั้นกันอีกครั้ง บนถนนในเมืองเล็กๆนั้น
เธอเกือบจะฝ่าไฟแดงเพราะเธอมองมาที่ฉัน
สายลมพัดผมฉันปลิวไสว ฉันอยู่ตรงนั้น และฉันจำเรื่องราวเหล่านั้นได้ดี ดีเกินไปด้วยซ้ำ

Photo album on the counter, your cheeks were turning red
You used to be a little kid with glasses in a twin-size bed
Your mother’s telling stories about you on the tee ball team
You tell me about your past, thinking your future was me

อัลบั้มรูปบนเคาน์เตอร์นั้น แก้มของเธอแดงระเรื่อ
เธอเคยเป็นแค่เด็กแว่นคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเตียงคู่
แม่ของเธอชอบเล่าเรื่องของเธอตอนที่เธออยู่ในทีมทีบอล (คล้ายๆเบสบอลสำหรับเด็กๆครับ)
เธอเล่าเรื่องอดีตของเธอให้ฉันฟัง แล้วคิดว่าอนาคตของเธอคือการได้อยู่กับฉัน

[And you were tossing me the car keys, Fuck the patriarchy
Key chain on the ground, we were always skipping town
And I was thinking on the drive down, any time now
He’s gonna say it’s love, you never called it what it was]

[และเธอก็โยนกุญแจรถให้ฉัน บนพวงกุญแจเขียนว่า “ระบบชายเป็นใหญ่น่ะ ไปตายซะ”
พวงกุญแจกองอยู่บนพื้น เราชอบหนีไปนอกเมืองกันตลอด
และระหว่างที่ฉันขับรถไปส่งเธอ ฉันก็คิดว่าเดี๋ยวอีกสักพัก
เขาจะบอกว่านี่คือความรักแน่ ๆ แต่เธอก็ไม่เคยเรียกว่าความสัมพันธ์นี้คืออะไร]

[Till we were dead and gone and buried
Check the pulse and come back swearing it’s the same
After three months in the grave
And then you wondered where it went to as I reached for you
But all I felt was shame and you held my lifeless frame]

[จนกระทั่งเราตายจากกัน และถูกฝังไปแล้ว
ลองจับชีพจรดู มันก็ยังเหมือนเดิม
หลังจากอยู่ในหลุมมา 3 เดือน
แล้วเธอก็สงสัยว่าเรื่องของเรามันไปไหนแล้วนะ ขณะที่ฉันเอื้อมไปหาเธอ
แต่ฉันรู้สึกแค่เพียงความละอาย และเธอก็ถือกรอบรูปอันไร้ชีวิตของฉัน]

And I know it’s long gone
And there’s nothing else I could do
And I forget about you long enough
To forget why I needed to

ฉันรู้ว่ามันผ่านมานานแสนนานแล้ว
และก็ไม่มีอะไรที่ฉันทำได้อีกแล้ว
ฉันลืมเธอไปนานเหลือเกิน
จนลืมไปแล้วทำไมฉันถึงต้องอยากลืมเธอ

‘Cause there we are again, in the middle of the night
We’re dancing around the kitchen in the refrigerator light
Down the stairs, I was there, I remember it all too well
[And there we are again when nobody had to know
You kept me like a secret but I kept you like an oath
Sacred prayer, and we’d swear
To remember it all too well, yeah]

เพราะเรากลับมาอยู่ที่ตรงนั้นกันอีกครั้ง ในยามค่ำคืน
เราเต้นรำกันรอบๆห้องครัวท่ามกลางแสงไฟจากตู้เย็น
ที่ชั้นล่างนั้น ฉันอยู่ตรงนั้น และฉันจำเรื่องราวเหล่านั้นได้ดี ดีเกินไปด้วยซ้ำ
[และเราก็กลับมาอยู่ที่นั่นกันอีกครั้ง ตอนที่ไม่มีใครต้องรู้เรื่องของเรา
เธอเก็บฉันไว้เป็นความลับ แต่ฉันน่ะเก็บเธอไว้เหมือนคำสัญญา
บทสวดภาวนาอันแสนศักดิ์สิทธิ์ และเราให้คำสัตย์สาบานต่อกัน
ว่าจะจดจำเรื่องของเราได้ดีเกินไป]

And maybe we got lost in translation, maybe I asked for too much
But maybe this thing was a masterpiece ’til you tore it all up
Running scared, I was there, I remember it all too well
And you call me up again just to break me like a promise
So casually cruel in the name of being honest
I’m a crumpled up piece of paper lying here
‘Cause I remember it all, all, all too well

และบางทีเราอาจจะเข้าใจอะไรกันไปผิดๆ บางทีฉันอาจจะขออะไรมากไป
แต่ความสัมพันธ์ของเรานี้อาจจะเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง จนกระทั่งเธอทำลายมันจนขาดสะบั้น
วิ่งไปด้วยความกลัว ฉันอยู่ตรงนั้น ฉันจำเรื่องราวตอนนั้นได้ดีเกินไป
แล้วเธอก็โทรมาอีกครั้ง เพียงเพื่อทำลายหัวใจฉันเหมือนที่ทำลายสัญญาพวกนั้น
ช่างเป็นความโหดร้ายที่แสนเรียบง่ายจากความตรงไปตรงมาของเธอ
ฉันกลายเป็นเหมือนกระดาษที่ถูกขยำทิ้งไว้บนพื้นนี้
เพราะฉันจดจำเรื่องราวทุกๆอย่างได้ดี จำได้ดีเกินไปด้วยซ้ำ

[They say all’s well that ends well but I’m in a new hell
Every time you double cross my mind
You said if we had been closer in age maybe it would have been fine
And that made me want to die
The idea you had of me – who was she?
A never needy, ever lovely jewel whose shine reflects on you
Not weeping in a party bathroom
Some actress asking me what happened, You, that’s what happened you
You who charmed my dad with self-effacing jokes
Sipping coffee like you’re on a late night show
But then he watched me watch the front door all night willing you to come
And he said it’s supposed to be fun turning twenty-one]

[เขาว่ากันว่า อะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป แต่ฉันเหมือนตกนรก
ทุก ๆ ครั้งที่เธอผ่านเข้ามาในความคิดฉัน
เธอบอกว่าถ้าเราอายุใกล้กันกว่านี้ บางทีเราคงไปได้สวย
และนั่นทำให้ฉันอยากตาย
มโนคติที่เธอมีเกี่ยวกับฉัน ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครน่ะ?
คนที่ไม่เคยต้องการอะไร เป็นอัญมณีที่แสนสวยงามเสมอ ซึ่งส่องประกายแสงใส่เธอ
ไม่ร้องไห้ในห้องน้ำงานปาร์ตี้
มีนักแสดงบางคนมาถามฉันว่าเกิดอะไรขึ้น เธอไง สิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันคือเธอไง
เธอคนที่ทำให้พ่อฉันประทับใจได้ด้วยมุขถ่อมตัว
จิบกาแฟเหมือนอยู่ในรายการทอล์คโชว์รอบดึก
แต่แล้วพ่อก็ได้แค่มองดูฉันเฝ้ามองประตูหน้าบ้านตลอดทั้งคืนอยู่เฉย ๆ เฝ้าหวังให้เธอมาหา
และพ่อบอกว่ามันควรจะสนุกสิที่อายุ 21 แล้ว]

Time won’t fly, it’s like I’m paralyzed by it
I’d like to be my old self again, but I’m still trying to find it
After plaid shirt days and nights when you made me your own
Now you mail back my things and I walk home alone
But you keep my old scarf from that very first week
‘Cause it reminds you of innocence and it smells like me
You can’t get rid of it ’cause you remember it all too well, yeah

เวลามันไม่ยอมเดินต่อไป เหมือนว่าฉันขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้เพราะช่วงเวลาเหล่านั้น
ฉันอยากจะกลับไปเป็นตัวเองในอดีตอีกครั้ง แต่ฉันยังคงพยายามตามหามันอยู่
หลังจากเสื้อลายสก็อตนั้น หลายวันหลายคืนที่เธอทำให้ฉันเป็นคนของเธอ
ตอนนี้เธอส่งของทุกๆอย่างของฉันกลับมา แล้วฉันก็ต้องเดินกลับบ้านตัวคนเดียว
แต่เธอยังคงเก็บผ้าพันคอผืนเก่าของฉันเอาไว้ ที่ฉันให้เธอตั้งแต่อาทิตย์แรกที่เราพบกัน
เพราะมันย้ำเตือนให้เธอนึกได้ถึงความไร้เดียงสา และมันยังมีกลิ่นของฉันอยู่
เธอทำลายมันไม่ลง เพราะเธอจำเรื่องราวของเราได้ดีเกินไปยังไงล่ะ

‘Cause there we are again, when I loved you so
Back before you lost the one real thing you’ve ever known
It was rare, I was there, I remember it all too well
Wind in my hair, you were there, you remember it all
Down the stairs, you were there, you remember it all
It was rare, I was there, I remember it all too well

เพราะเรากลับมาอยู่ตรงนั้นกันอีกครั้ง ในยามที่เรายังรักกัน
ก่อนที่เธอจะเสียความรักที่แท้จริงเพียงครั้งเดียวที่เธอเคยรู้จักไป
มันช่างมีค่า ฉันอยู่ตรงนั้น และฉันจดจำมันได้ดีเกินไป
สายลมพัดผมฉันปลิวไสว เธออยู่ตรงนั้น และเธอจำเรื่องราวเหล่านั้นได้
ที่ชั้นล่างนั้น เธออยู่ตรงนั้น และเธอจำเรื่องราวเหล่านั้นได้ดี
มันช่างมีค่า ฉันอยู่ตรงนั้น และฉันจดจำมันได้ดี ดีเกินไปจริงๆ

[And I was never good at telling jokes but the punch line goes
I’ll get older but your lovers stay my age
From when your Brooklyn broke my skin and bones
I’m a soldier who’s returning half her weight
And did the twin flame bruise paint you blue
Just between us did the love affair maim you too
Cause in this city’s barren cold I still remember the first fall of snow
And how it glistened as it fell, I remember it all too well

และฉันเป็นคนที่เล่ามุขตลกไม่เก่งเลย แต่ฉันปล่อยหมัดเด็ดออกไปว่า
“ฉันจะอายุเยอะขึ้นแหละ แต่คนรักของเธอจะอายุเท่าฉันนะ”
จากตอนที่บรู๊คลินของเธอทำฉันพังทลาย
ฉันก็กลายเป็นทหารที่กลับบ้านมาพร้อมน้ำหนักที่หายไปครึ่งหนึ่ง
และครึ่งชีวิตของเธอ ทำให้เธอเศร้ามั้ยนะ?
รู้กันแค่เราสองคนนะ ความรักครั้งนี้มันทำให้เธอเจ็บปวดเหมือนกันมั้ย?
เพราะเมืองนี้มันหนาวและแห้งแล้งเหลือเกิน ฉันยังจำวันที่หิมะตกครั้งแรกได้เลย
และมันระยิบระยับขนาดไหน ฉันจำมันได้ดี ดีเกินไปจริง ๆ

Just between us did the love affair maim you all too well
Just between us do you remember it all too well
Just between us I remember it, (just between us), all too well
Wind in my hair I was there, I was there
Down the stairs I was there, I was there
Sacred prayer I was there, I was there
It was rare you remember it all too well
Wind in my hair I was there, I was there
Down the stairs I was there, I was there
Sacred prayer I was there, I was there
It was rare you remember it
Wind in my hair I was there, I was there
Down the stairs I was there, I was there
Sacred prayer I was there, I was there
It was rare you remember it
Wind in my hair I was there, I was there
Down the stairs I was there, I was there
Sacred prayer I was there, I was there
It was rare you remember it

รู้กันแค่เราสองคนนะ ความรักครั้งนี้มันทำให้เธอเจ็บปวดเหมือนกันมั้ย?
รู้กันแค่เราสองคนนะ เธอจำมันได้ดีเกินไปรึเปล่า?
รู้กันแค่เราสองคนนะ ฉันจำมันได้ดีเลย ดีเกินไปด้วยซ้ำ
สายลมพัดผมฉันปลิวไสว ฉันอยู่ตรงนั้น ฉันอยู่ที่นั่น
ที่ชั้นล่างนั้น ฉันอยู่ตรงนั้น ฉันอยู่ที่นั่น
บทสวดภาวนาอันศักดิ์สิทธิ์ ฉันอยู่ตรงนั้น ฉันอยู่ที่นั่น
มันหายากเหลือเกินนะ เธอจำมันได้ดี
สายลมพัดผมฉันปลิวไสว ฉันอยู่ตรงนั้น ฉันอยู่ที่นั่น
ที่ชั้นล่างนั้น ฉันอยู่ตรงนั้น ฉันอยู่ที่นั่น
บทสวดภาวนาอันศักดิ์สิทธิ์ ฉันอยู่ตรงนั้น ฉันอยู่ที่นั่น
มันหายากเหลือเกินนะ เธอจำมันได้ดี
สายลมพัดผมฉันปลิวไสว ฉันอยู่ตรงนั้น ฉันอยู่ที่นั่น
ที่ชั้นล่างนั้น ฉันอยู่ตรงนั้น ฉันอยู่ที่นั่น
บทสวดภาวนาอันศักดิ์สิทธิ์ ฉันอยู่ตรงนั้น ฉันอยู่ที่นั่น
มันหายากเหลือเกินนะ เธอจำมันได้ดี]

 

แปลบทพูดในเอ็มวี (พอดีตอนถ่ายคลิปนี้เอ็มวียังไม่ออก)
ตอนเริ่ม
เทย์ : นี่เธอเป็นเรื่องจริงรึเปล่านะ
เจค : หมายความว่าไง?
เทย์ : ไม่รู้สิ เหมือนเธอคือความฝันที่ฉันสร้างขึ้นมาเลยน่ะ

ตอนทะเลาะกัน
เจค : ทำไมต้องโมโหขนาดนั้นด้วยอะ
เทย์ : ใครบอกว่าฉันโมโห ฉันเปล่านะ
เจค : เพราะเธอทำเหมือนโมโหอยู่ไง ไร้สาระจริง ๆ พวกนั้นเป็นเพื่อนฉันนะ และพวกเขาก็พยายามทำตัวโคตรดีกับเธอแล้วด้วย
เทย์ : ฉันชอบเพื่อน ๆ เธอนะ ฉันพูดตอนไหนว่าฉันไม่ชอบอะ?
เจค : แล้วทำไมทำตัวแบบนี้อะ
เทย์ : ฉันไม่ชอบท่าทางของเธอเวลาอยู่กับพวกเขาต่างหาก
เจค : ก็เธอทำตัวแปลก ๆ แล้วเงียบตลอดเวลาเลย
เทย์ : ฉันเปล่านะ
เจค : ใช่สิ
เทย์ : เพราะเธอไม่ยอมหันมามองฉันเลยไง
เจค : ให้ตายสิ
เทย์ : เธอหันมาถามฉันครั้งเดียว ตลอดทั้งคืนเนี่ย
เจค : ไร้สาระจริง ๆ นี่มันไร้สาระสุด ๆ
เทย์ : เธอปล่อยมือฉัน ให้ฉันทำยังไงล่ะ?
เจค : นี่ฉันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าฉันปล่อยมือเธอตอนไหน
เทย์ : แล้วฉันก็ไม่รู้จักคนพวกนี้เลย เขาเป็นคนแปลกหน้าทุกคน อายุเยอะกว่าฉันด้วย
เจค : นี่เธอพูดอะไรของเธอเนี่ย
เทย์ : ฉันรู้สึกอยู่ผิดที่ผิดทางไปหมด เธอเป็นคนเดียวที่ทำให้คนอื่นรู้สึกสบายใจได้
เจค : นี่เธอทำให้กลายเป็นเรื่องของเธอเองไปแล้วนะ
เทย์ : พวกเขาไม่สนใจมองฉันด้วยซ้ำ
เจค : ฉันก็แค่สังสรรค์กับเพื่อน ๆ เธอกลับมาพูดว่าฉันปล่อยมือเธอ ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่านั่นมันตอนไหนอะ นี่เธอมาหาเรื่องฉัน ในเรื่องที่ฉันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำได้ไงอะ ก็คนมันไม่รู้ตัว กำลังสนุกกับเพื่อน ๆ อะ
เทย์ : พอเลย เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนคนโง่อะ
เจค : ให้ตายสิ ฉันว่าไม่ใช่ฉันแหละที่ทำให้เธอรู้สึกแบบนั้น ฉันว่าเธอทำตัวเองนะเรื่องนี้อะ เรื่องที่ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำเนี่ย มันเหมือนเธอจับเป็นตัวประกันเลย บ้าบอสิ้นดี ฉันไม่ได้เจอเพื่อน ๆ พวกนี้มาเป็นสิบปีนะ และเธอก็นั่งอยู่ตรงนั้นอยู่ตลอด ฉันคิดว่ามันสนุกจะตาย โคตรสนุกเลยด้วย แล้วตอนนี้เราก็มาเป็นอย่างงี้กันเนี่ยนะ ดีจริง ๆ ดีโคตร ๆ เลย
เทย์ : ก็เธอน่ะทำตัวแปลกไปกับฉันอะ
เจค : หมายความว่าไงที่ทำตัวแปลกไป?
เทย์ : เธอไม่หันหน้ามามองฉันเลยสักครั้งไง!
เจค : อะไรนะ? ฉันไม่มองเธอเลยงั้นหรอ?
เทย์ : ฟังนะ
เจค : ฉันสนุกกับเพื่อน ๆ อยู่!
เทย์ : ไม่ ๆๆ เชื่อสิ พวกเขาเนี่ยติดใจเธอสุด ๆ แหละ
เจค : นี่เธออยากให้คืนนี้เป็นคืนของเธอคนเดียวใช่มั้ยล่ะ
เทย์ : ไม่ เธอน่ะเพอร์เฟคท์สุด ๆ เธอไม่มองฉันสักนิด
เจค : ให้ตายสิ ฉันไม่ไหวละ เธอแม่งโคตรเห็นแก่ตัวเลยอะ นี่มันบ้าบอสุด ๆ เธออยากให้นี่มันเป็นเรื่องของเธอคนเดียว
เทย์ : อ๋อ ฉันเห็นแก่ตัวแล้วสินะ
เจค : ใช่
เทย์ : ฉันเห็นแก่ตัวสินะ!
เจค : เธออยากให้ฉันสนใจแต่เธอคนเดียว เธอทำตัวเห็นแก่ตัวสุด ๆ เลยอะ นี่แหละคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น อย่ามองฉันแบบนั้นสิ นี่มันเละเทะไปหมดแล้ว เฮ้ๆๆๆ มานี่มา ฉันไม่อยากทะเลาะนะ ฉันขอโทษ ขอโทษนะที่ปล่อยมือเธอ
เทย์ : ฉันอายสุด ๆ เลย
เจค : ฉันขอโทษนะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.